‘โตโน่’ ไม่สนดราม่าขอทำเพื่อ ‘หมอ-พยาบาล’ วอนอย่าแบ่งสีให้สามัคคีกัน

“โตโน่” เมินกระแสดราม่า ประกาศขอทำเพื่อ “หมอ-พยาบาล” วอนอย่าแบ่งพรรคแบ่งสีขอให้สามัคคีกัน ถามไม่ดีหรืออย่างไรถ้าคนหันมาช่วยเหลือสังคม ยืนยันไม่เคยคิดใช้ของฟรีปมอุโมงค์น้ำ แต่มหาวิทยาลัยใจดีช่วยสนับสนุนไม่คิดค่าใช้จ่าย

เมื่อวันที่ 20 เดือนตุลาคม นายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หรือ โตโน่ นักแสดงชื่อดัง เปิดเปิดเผยถึงความคืบหน้า การจัดกิจกรรม ว่ายข้ามโขงเพื่อการกุศลสนับสนุนช่วยเหลือโรงพยาบาลขาดแคลน มี โรงพยาบาลนครพนม และก็ โรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว ในชื่อ OneMan And The River กำหนดระยะทางว่ายไปกลับประมาณ 15 กิโลเมตร ระหว่างตัวเมืองจังหวัดนครพนม กับแขวง คำม่วน สปป.ลาว ในวันที่ 22 เดือนตุลาคมว่า

ปัจจุบันวันนี้ได้ลงพื้นที่สำรวจสภาพน้ำจัดว่าไม่มีความกังวล แต่ไม่มีแผนในการซ้อมว่ายสนามจริง เพราะเหตุว่ามั่นใจในสภาพร่างกาย พร้อมมาก อีกทั้งความฟิต และก็สภาพจิตใจ

โตโน่ ภาคิน

 

ส่วนปัญหากรณีดราม่า หลายคนออกมาแสดงความคิดเห็นหลากหลายมุมมอง

ตนขอน้อมรับทุกความความเห็น รวมถึงความมองเห็นต่าง แม้ตนถูกดราม่า แล้วเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระให้กับหมอ พยาบาล ของโรงพยาบาลต่าง ๆ ได้ ตนยินดี เพราะเหตุว่าหมอ พยาบาล ต้องทำงานทุกวันในการดูแลรักษาคนไข้ ตนเหนื่อยวันเดียว แต่ภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือสังคม ต้องการที่จะให้ทุกคนรักกัน สามัคคีกัน หันมาช่วยเหลือสังคม ทำความดีเพื่อสังคม ต้องการถามคำถามว่า ไม่ดีหรืออย่างไรที่คนพวกเรามาร่วมทำความดี มารักสามัคคีกัน ทำเพื่อประโยชน์

โตโน่ นักแสดงชื่อดัง

โตโน่ กล่าวว่า ต้องขอกราบขอบพระคุณมีหลายหน่วยงานให้การสนับสนุน

รวมถึงกรณีที่มีการทอดสอบร่างกายในอุโมงค์น้ำของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง จนกลายเป็นกระแสดราม่า ว่าใช้ฟรี อีกทั้งที่ตนและก็ทีมงานไม่เคยคิดจะใช้ของใครฟรี และก็ไม่ใช้งบประมาณรัฐในการจัดกิจกรรม แต่ในเมื่อมีหน่วยงานต้องการสนับสนุนอนุเคราะห์ให้ใช้ทดสอบร่างกาย เพื่อความพร้อมในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมไม่ใช่เรื่องแปลก ดังนี้ตนไม่นำมาเป็นอุปสรรคปัญหา เพราะเหตุว่าถามคืนว่าแม้กลัวดราม่า คงไม่ต้องทำอะไร การทำความดีไม่ต้องกลัวดราม่า เพราะเหตุว่าคงมีทุกวันอยู่แล้ว สำคัญที่สุดต้องทำให้ถึงเป้าหมาย ต้องช่วยเหลือโรงพยาบาลนครพนม รวมถึง โรงพยาบาลแขวงคำม่วน ให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ ส่วนจะมากน้อยแค่ไหนขอเพียงแค่ได้ทำเพื่อประโยชน์แก่สังคม

“ฝากทำความเข้าใจว่ากิจกรรมที่ผมจัดขึ้น ต้องการทำเพื่อแพทย์ พยาบาล ที่ทำงานเหน็ดเหนื่อย อย่าเอาการเมือง หรือแบ่งพรรคแบ่งสีมาเกี่ยวข้อง ใครจะเชียร์ใครผมไม่สนใจ เพราะโรงพยาบาล ไม่เคยเลือกว่าจะต้องรักษาใคร มีหน้าที่รักษาทุกคน ทุกพรรค ทุกฝ่ายทุกสี อยากให้เห็นใจบุคลากรทางการแพทย์ มากกว่าการเอาสีเอาฝ่ายมาเป็นปัญหา อยากให้รักสามัคคีกัน เรามาช่วยกันคนละไม้คนละมือดีกว่า ไม่ว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้ช่วยได้มากน้อยแค่ไหน ขอเพียงผมได้ทำ นั่นคือความตั้งใจของผม ขอทำให้ดีที่สุด” โตโน่ กล่าว